อสังหาฯแบบใด ที่ดิน บ้าน แบบไหน จำนองผ่านง่าย ขายฝากก็ผ่านสบาย
หลาย ๆ ท่านที่ต้องการทำจำนองที่ดิน จำนองบ้าน หรือนำอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ มาทำจำนอง-ขายฝากกับนายทุน อาจจะเกิดความสงสัยว่าเวลานำทรัพย์สินต่าง ๆ มาทำจำนอง-ขายฝากนั้น ไม่มีนายทุนคนไหนอนุมัติวงเงินให้เลย ทั้งที่เรามั่นใจว่าวงเงินที่ขอนั้น เมื่อเปรียบเทียบแล้วไม่ได้สูงกว่าราคาซื้อขายตามราคาตลาดในแถว ๆ นั้นเลย และเราแสดงรายได้ต่าง ๆ ให้นายทุนดู เพื่อความชัดเจนว่าเรามีความสามารถในการผ่อนชำระตามงวด และนำเงินต้นมาไถ่ตามระยะเวลาในสัญญาได้แบบที่จะไม่เกิดปัญหาตามมา แต่นายทุนก็ยังปฏิเสธว่าทรัพย์ของเราไม่ควรรับจำนอง-ขายฝาก และมักให้เหตุผลคล้ายกันว่าเสี่ยงเกินไป
เกณฑ์ทั่วไปในการตรวจสอบทรัพย์สิน โดยทั่วไปแล้ว นายทุนแต่ละคนก็จะมีเกณฑ์และเงื่อนไขในการคัดกรองทรัพย์ที่นำมาจำนอง หรือว่าขายฝากนั้นแตกต่างกันไป แล้วแต่มุมมอง และดุลยพินิจของนายทุนแต่ละคน แต่เหตุผลหลัก ๆ จะคล้ายกัน เช่น
การประเมินวงเงิน
ตามปกติแล้ว นายทุนจะมีวิธีการป้องกันความเสี่ยงในการรับจำนอง โดยจะประเมินวงเงินให้ที่ 30% ของราคาซื้อขายหรือมูลค่าทรัพย์สิน ยกตัวอย่างเช่น ถ้าทรัพย์มีการซื้อขายกันอยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท ผู้กู้ต้องการนำทรัพย์มาจำนอง-ขายฝาก จะมีโอกาสได้รับวงเงินสูงสุดที่ราว 900,000 บาท หมายความว่าถ้าต้องการเงินจำนองที่มากกว่า 900,000 บาท นายทุนส่วนใหญ่ก็มักจะปฏิเสธอนุมัติวงเงินให้ และบอกว่าได้สูงสุดเท่านี้ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้วการทำขายฝากจะเป็นธุรกรรมที่นายทุนให้วงเงินสูงกว่าการจำนอง โดยจะให้วงเงินอยู่ที่ไม่เกิน 50% ของมูลค่าทรัพย์หรือราคาตลาดในบริเวณนั้น ในบางกรณีขึ้นอยู่กับคุณภาพทรัพย์เป็นหลัก เนื่องจากเจ้าของทรัพย์มักขอจำนองด้วยวงเงินที่สูงกว่าราคาที่นายทุนประเมินไว้ให้ ทั้งนี้ยังมีนายทุนบางส่วนที่มีเกณฑ์การรับแตกต่างจากนายทุนคนอื่น อาจมีนายทุนที่เพดานวงเงินสูงกว่าให้วงเงินจำนองได้สูงสุดที่ไม่เกิน 40% และวงเงินขายฝากอยู่ที่ไม่เกิน 60% ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะในบางเคสนายทุนอาจจะอยากได้ทรัพย์นั้นด้วย เช่น ที่ดินทำเลที่สามารถนำมาพัฒนาต่อยอดได้ ดังนั้นอาจจะสรุปได้ว่าวงเงินในการอนุมัติให้กับผู้มาขอกู้นั้นขึ้นอยู่กับคุณภาพของทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกันเป็นสำคัญ
ทำเลที่ตั้งของทรัพย์อสังหา
ทำเลที่ตั้งของทรัพย์เป็นส่วนสำคัญในการพิจารณาวงเงินในการรับจำนอง-ขายฝาก หลายคนอาจสงสัยว่าทรัพย์ของเรากับวงเงินที่ขอไปนั้นไม่สูงเกินกว่าเงื่อนไขการประเมินของนายทุน ทำไมถึงยังไม่มีนายทุนรับทรัพย์ของเราอีก
อีกความเสี่ยงหนึ่งที่นายทุนไม่อยากรับและไม่อยากได้เลยคือ “กลัวทรัพย์หลุด” หมายถึงการที่เจ้าของทรัพย์ไม่มาไถ่ถอนตามระยะเวลาที่กำหนดในสัญญา ทำให้นายทุนต้องนำทรัพย์นั้น ๆ มาฟ้องร้องตามกฎหมายบังคับขายทรัพย์ (หมายถึงการรับจำนอง) หรือในกรณีที่ทรัพย์หลุดมา ต้องเสียเวลาในการนำทรัพย์ไปขายอีกเพื่อให้ได้เงินต้นที่ลงทุนไปกลับมา ถึงแม้ว่าจะไม่มีนายทุนท่านใดอยากปล่อยให้ทรัพย์ติดมือมาก็ตาม แต่ก่อนที่จะลงทุนสิ่งใด จำเป็นต้องประเมินความเสี่ยงต่าง ๆ และหาทางออกเอาไว้ก่อนล่วงหน้าเพื่อเตรียมรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น แล้วที่ตั้งทรัพย์เกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างไร? ทรัพย์ที่ดีคือทรัพย์ที่ซื้อง่ายขายคล่อง มีสภาพคล่องและคุณภาพสูง ในบางพื้นที่ทรัพย์ที่เจ้าของนำมาจำนอง-ขายฝากมีราคาที่อยู่ในเกณฑ์ที่นายทุนสามารถอนุมัติรับได้ตามเกณฑ์ แต่ถ้าที่ตรงนั้นเป็นที่ที่มีอัตราซื้อขายต่ำ แถมยังไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่กำลังพัฒนา ทำให้นายทุนไม่อยากได้ทรัพย์ติดมือ จะต้องมีความยุ่งยากในการขายทรัพย์นี้และใช้เวลาไม่น้อยทีเดียว
เรื่องสิทธิการใช้ทางเข้าออกของที่ตั้งทรัพย์อสังหา
หลายคนคงเคยได้ยิน ที่ดินตาบอด เป็นที่ดินที่ไม่ติดทางเข้าออกที่เป็นทางสาธารณประโยชน์ ทำให้ต้องเจอปัญหาเรื่องสิทธิการใช้ทางเข้าออก และส่งผลต่อมูลค่าของทรัพย์นั้น ๆ โดยจะถูกประเมินไว้ต่ำกว่าราคาที่มันควรจะเป็น บางคนอาจสงสัยว่าที่ดินแปลงที่เราจำเป็นต้องผ่านทางเพื่อเข้าถึงถนนหลักเป็นของญาติ กรณีแบบนี้นายทุนพอที่จะพิจารณาให้ได้หรือไม่? ตอบเลยว่ายากมาก เนื่องจากชื่อหลังโฉนดของแปลงทางที่เราใช้เข้าออกนั้นไม่มีการจดภาระจำยอมให้ใช้ทางได้ ในทางทฤษฎีแล้วหมายความว่าที่ตรงนั้นเป็นที่ตาบอดไม่มีทางเข้าออกตามกฎหมาย แม้ว่าชื่อหลังโฉนดจะเป็นญาติสนิท หรือเพื่อนสนิทก็ตาม นายทุนจะมองว่าถ้าทรัพย์หลุดมาถือมือต้องนำไปจดภาระจำยอม หรือต้องไปทำการซื้อทางเข้าออกอีกอาจจะเป็นภาระในอนาคตถ้าเกิดทรัพย์ติดมือ
โฉนดปลอดภาระ
เคสที่เห็นได้บ่อยในวงการจำนอง-ขายฝาก เจ้าของทรัพย์จะเอาทรัพย์มาทำจำนอง-ขายฝากและบอกว่าต้องการเปลี่ยนทุนใหม่ เพราะว่าใกล้ครบกำหนดไถ่ถอนแล้ว หรือบางทีเจ้าของทรัพย์เองก็ต้องการเพิ่มวงเงิน ซึ่งก็มักจะเกิดคำถามว่าทำไมถึงขอวงเงินเพิ่ม และทำไมไม่ขอเพิ่มวงเงินกับนายทุนเจ้าเก่า หรือขอยืดระยะเวลาไถ่ถอนออกไป เนื่องจากการเปลี่ยนทุนนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูง หากไม่ได้มีความจำเป็นจริง ๆ แล้วจะไม่แนะนำให้ทำกัน เพราะนอกจากเจ้าของทรัพย์จะต้องเสียค่าโอน ค่าธรรมเนียมในการไถ่ถอนจากนายทุนเก่าแล้วยังต้องเสียค่าธรรมเนียมในการจำนอง-ขายฝากใหม่ทั้งหมด เป็นการเพิ่มหนี้สินเข้าไปอีก นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่นายทุนต้องระวังเป็นพิเศษ สาเหตุที่ไม่ขอเพิ่มวงเงินหรือยืดระยะเวลาไถ่ถอนกับนายทุนเดิมนั้นเป็นเพราะประวัติการชำระเงินค่าดอกเบี้ยไม่ดี การเงินไม่ดี ไม่ส่งดอกเบี้ยกับนายทุนเดิม หากรับเคสมาแล้ว มีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน? จะได้ไม่ต้องมานั่งแก้ไขปัญหาภายหลัง สำหรับนายทุน อีกเหตุผลหนึ่งที่ไม่ค่อยอยากรับเคสเปลี่ยนมือเพราะยังมีข้อควรระวังจากนายทุนเก่าอีกอย่างคือ หวังจะเอาทรัพย์มาเป็นของตนเอง มีนายทุนจำนวนมากที่ลงทุนจำนอง-ขายฝากเพราะหวังที่จะครอบครองทรัพย์สินนั้น ๆ เอง ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าในตลาดมาก เจ้าของทรัพย์เองก็ไม่ได้ไม่มีวินัยทางการเงิน แต่ยังไม่สามารถหาเงินก้อนมาไถ่ถอนกลับไปได้ ดังนั้นเมื่อมีนายทุนใหม่ที่พร้อมจะเข้าไปเปลี่ยนมือให้เจ้าของทรัพย์เข้ามา นายทุนท่านเก่าก็จะทำทีเป็นเปลี่ยนใจ ยอมให้ต่อสัญญาใหม่ได้ ทำให้เจ้าของทรัพย์เลือกที่จะต่อสัญญากับนายทุนท่านเดิมเพราะเสียค่าธรรมเนียมการโอนที่น้อยกว่า
สรุปอสังหาฯแบบใด จำนองผ่านง่าย ขายฝากก็ผ่านสบาย
อสังหาริมทรัพย์ที่นายทุนจะอนุมัติได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องตรวจสอบมาก มักเป็นทรัพย์ที่มีโฉนดปลอดภาระ มีทางเข้าออกติดทางสาธารณะ ตั้งอยู่ในทำเลชุมชน และมีสภาพคล่องในการซื้อขายปานกลางถึงสูง โดยเฉพาะทรัพย์ที่ติดถนนใหญ่ จะทำให้อนุมัติได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น วงเงินที่ต้องการจำนอง-ขายฝากอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับราคาตลาด โดยทั่วไปจะอนุมัติไม่เกิน 50% สำหรับการจำนอง และ 30% สำหรับการขายฝาก แต่ก็ขึ้นอยู่กับกรณีเฉพาะเจาะจงแต่ละเคสไป
สารบัญ
บทความที่เกี่ยวข้อง
จำนอง – ขายฝาก ผ่าน Loan DD By Land for Loan
Best Deal Guarantee
วงเงินสูง อนุมัติไว ดอกเบี้ยต่ำ
จัดให้ครบ ที่นี่ที่เดียว ที่
Loan DD ❗️
รับจำนอง-ขายฝาก ที่ดิน บ้าน คอนโดดอกเบี้ยถูก เริ่มต้น เพียง!! 0.75% /เดือน ถูกกฎหมาย ปลอดภัย
ปิดหนี้นอกระบบ ปิดหนี้บัตร เป็นธรรม สร้าง-ขยายธุรกิจ หมุนธุรกิจ เงินทุนดอกต่ำ
✅ไม่เช็คแบล็คลิสต์
✅ไม่เช็คเครดิตบูโร
✅อนุมัติไว
สนใจดูรายละเอียดได้ที่ www.loandd.co.th
บริการให้คำปรึกษา ฟรี
LINE ID: @loan-dd
โทร : 065 153 9199